บทที่ 2 ตอนที่ 2
เสียงของเฟอร์ดินานเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้เอนกายพิงกับเบาะรถนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดจนน่าหวั่นใจ
“ไปโรงพยาบาลเลย ฉันเป็นห่วงคุณตา”
ริมฝีปากหยักสวยบางเฉียบปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจากปอดอีกครั้งอย่างยาวเหยียด ก่อนจะปล่อยให้ความเงียบกลืนกินทุกอย่างรอบตัวไปจนหมดสิ้น ดวงตาคมกริบปิดสนิทลงคล้ายกับอ่อนล้าเต็มทน ใบหน้าหล่อสมบูรณ์แบบที่เหล่าสาวๆ ทั่วทั้งโลกต่างให้สมญานามว่า ‘เทพบุตรเดินดิน’ อ่อนโยนลงเมื่อเจ้าของกลับมาอยู่ในโลกส่วนตัวอีกครั้ง
เฟอร์ดินานลอบมองเจ้านายหนุ่มหล่อผ่านกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจนเนื่องจากวูลฟ์ไม่ได้ปิดช่องกระจกที่กั้นระหว่างห้องคนขับกับห้องผู้โดยสารเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และนั่นก็ทำให้เขาได้เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังอ้างว้างและโหยหาความรักที่แท้จริง
วูลฟ์ไม่มีเคยรู้จักว่าพ่อของตัวเองเป็นใครเพราะแม่ของเขาเกิดตั้งครรภ์ในวัยเรียน และนั่นก็ทำให้ในชีวิตของวูลฟ์ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมีเพียงแค่มารดาและแฟรงซ์ เมอร์ดิสันซึ่งเป็นคุณตาแท้ๆ เท่านั้น แต่ชีวิตของวูลฟ์ก็มีความสุขดีไม่ได้ขาดแคลนอะไรจนกระทั่งเขาเสียแม่ไปอีกคนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ นั่นแหละวูลฟ์จึงเปลี่ยนไป ชายหนุ่มเงียบขรึมและเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แต่เขาก็โศกเศร้าได้ไม่นานเมื่อจำเป็นต้องก้าวขึ้นมาดูแลกิจการของครอบครัวทั้งหมดแทนมารดาอย่างไม่มีทางเลี่ยง
ชีวิตในช่วงวัยรุ่นของวูลฟ์จึงเหือดหายไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มไม่เคยได้เฮฮากับเพื่อนฝูงนับตั้งแต่เข้าไปรับบทบาทของผู้บริหารหนุ่ม เวลาทุกวินาทีของวูลฟ์หมดไปกับกิจการอันมากมายของครอบครัว แต่วูลฟ์ก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยแสดงความท้อแท้ออกมาให้ได้เห็น ชายหนุ่มบริหารงานด้วยเทคนิคใหม่ๆ ที่ผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยและความเหี้ยมโหด วูลฟ์ไม่เคยปรานีคู่ต่อสู้ในสนามแข่งขัน เขาเหยียบพร้อมกับขยี้จนคู่ต่อสู้สิ้นลมหายใจ ความอำมหิตของวูลฟ์ถูกโจษจันไปทั่วทุกมุมโลก หนังสือพิมพ์ทุกฉบับในอเมริกาไม่เคยไม่ลงเรื่องราวของเจ้าพ่อแห่งลาสเวกัสที่ชื่อวูลฟ์ เมอร์ดิสัน ผู้ชายที่กำลังเขย่าโสตประสาทของนักธุรกิจทุกคน และก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่สามารถทำให้ผู้หญิงอ่อนระทวยได้เพียงแค่สบตา
ผู้หญิงในทุกชนชั้นต่างพาเหรดกันเข้ามาหาเจ้านายของเขาอย่างไร้ยางอาย ทุกวันจะมีดอกไม้จากผู้หญิงส่งมาหาวูลฟ์ที่ออฟฟิศจนยามแทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น แต่วูลฟ์ก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ ผู้หญิงในความคิดของวูลฟ์ก็แค่เครื่องบำบัดความใคร่ เมื่ออิ่ม...เมื่อทุกอย่างจบสิ้น วูลฟ์ก็จะเขี่ยแม่สาวๆ พวกนั้นลงจากเตียงภายในชั่วข้ามคืน วูลฟ์ไม่เคยสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน พอๆ กับที่ไม่เคยชายตาแลสาวคนไหนมาก่อน ในชีวิตของวูลฟ์ถ้าไม่ทำงาน เขาก็จะกลับไปอยู่กับคุณตาที่เมอร์ดิสัน พาเลซ
เฟอร์ดินานถอนใจออกมาเมื่อหักพวงมาลัยรถเข้ามาจอดที่หน้าโรงพยาบาลหรูที่แฟรงซ์ เมอร์ดิสันพักรักษาตัวอยู่
“คุณวูลฟ์ครับ ถึงแล้วครับ”
วูลฟ์ลืมตาขึ้น เขายกมือขึ้นเสยผมสีดำที่ผ่านการตัดแต่งมาจากร้านตัดผมชื่อดังสองสามครั้งเพื่อลดความยุ่งเหยิง ก่อนจะก้าวลงไปจากรถทันทีเมื่อประตูรถถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล
“เชิญทางนี้ครับคุณวูลฟ์”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับของโรงพยาบาลทำความเคารพชายหนุ่มอย่างน้อมนอบ ก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักฟื้นของแฟรงซ์ เมอร์ดิสัน วูลฟ์ก้าวตามไปโดยมีเฟอร์ดินานเดินตามไปติดๆ เพียงไม่นานนักก็ถึงห้องวีไอพี
“ผมต้องการทราบอาการของคุณตาอย่างละเอียด” ถามขึ้นเมื่อพบนายแพทย์เจ้าของไข้ยืนรออยู่หน้าห้องพักฟื้นของคุณตา
“คุณแฟรงซ์แค่อ่อนเพลียครับ ไม่มีอะไรมาก...”
“จะไม่มีอะไรมากได้ยังไงครับ ในเมื่อคุณตาของผมท่านช็อก”
นายแพทย์ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น
“ท่านไม่ได้ช็อกหรอกครับ ท่านแค่เป็นลมเพราะความอ่อนเพลีย และจากที่ผมสอบถามพยาบาลส่วนตัวที่ดูแลคุณแฟรงซ์ ผมก็พบว่าท่านไม่เจริญอาหารและไม่ค่อยทานยา ดังนั้นหากปรับปรุงในเรื่องพวกนี้ซะ คุณแฟรงซ์ก็จะไม่มีอาการนี้อีกอย่างแน่นอนครับ”
วูลฟ์อึ้งไปพักใหญ่ สมองที่ฉลาดเป็นกรดกำลังประมวลผลในสิ่งที่ได้ฟังอย่างเคร่งเครียด เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณตาไม่ยอมทานข้าวไม่ยอมทานยา เพราะทุกครั้งที่เขาถามพยาบาลที่จ้างมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงลิบลิ่วก็จะได้ยินว่าท่านทานครบทุกอย่าง
“ขอบคุณมากครับที่ทำให้ผมรู้ในสิ่งที่ควรรู้”
กรามแกร่งขบกันแน่นเมื่อได้รู้ถึงการโกหกหลอกลวง นายแพทย์เจ้าของไข้ยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากยืนสงบนิ่ง
“แล้วคุณตาจะกลับบ้านได้เมื่อไรครับ”
“พรุ่งนี้ก็กลับได้แล้วครับ” นายแพทย์ตอบอย่างสุภาพ
“ขอบคุณมากครับ ผมขอตัวเข้าไปเยี่ยมท่านก่อน”
“เชิญครับ”
วูลฟ์ก้มศีรษะน้อยๆ ให้กับผู้อาวุโสกว่า ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นของแฟรงซ์อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เฟอร์ดินานยืนรออยู่ที่นอกห้อง
